เรื่องเล่าผีหลอกของเจ้านายไทย จากพระนิพนธ์ของพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ (2464)
ในยุคสมัยรัชกาลที่ 6–7 ซึ่งวิทยาการตะวันตกเริ่มเข้ามามีบทบาทในราชสำนักไทย ความเชื่อเรื่อง “ผี” ก็ยังคงดำรงอยู่ในจิตใจของเจ้านายบางพระองค์
หนึ่งในงานเขียนที่หายากและทรงคุณค่าซึ่งสะท้อนความเชื่อนี้คือ _หนังสือว่าด้วยอำนาจผี แลผีหลอก_ พระนิพนธ์โดย **พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์** เมื่อ พ.ศ. 2464 ซึ่งได้ทรงบันทึกประสบการณ์ส่วนพระองค์เกี่ยวกับ “ผีหลอก” ที่เกิดขึ้นจริงในสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังบางปะอิน หรือบ้านบางยี่ขัน
เรื่องเล่าจึงไม่ใช่เพียงเรื่องน่ากลัว หากแต่เป็นภาพสะท้อนความซับซ้อนของจิตใจ มุมมองแบบ “ราชสำนัก” ต่อสิ่งลี้ลับ และความลังเลระหว่างเหตุผลกับสิ่งที่อธิบายไม่ได้
ผีอำที่บางปะอิน
เมื่อต้นปี พ.ศ. 2465 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสตามเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชวังบางปะอิน ในช่วงที่มีน้ำหลาก และได้พักอยู่ที่ “สภาคารราชประยูร” ห้องพักนั้นไม่กว้างนัก และเพดานก็ไม่สูง
คืนหนึ่ง ข้าพเจ้าต้องทำงานจนค่ำ เมื่อเสร็จแล้วจึงขึ้นเตียงนอนโดยไม่ได้กางมุ้ง ข้าพเจ้าปิดหน้าต่างไว้ และดับไฟ เพราะไม่ชอบแสงรบกวน
ก่อนจะหลับ ข้าพเจ้ารู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ คิดว่า ถ้ามีใครปีนเข้ามาทางหน้าต่างจะทำอย่างไร แต่เพราะง่วงนัก จึงไม่ทำอะไรต่อแล้วหลับไป
ขณะเคลิ้มหลับ ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนฝัน เห็นชายแก่รูปร่างเตี้ย ผมหงอก ไต่ลงมาจากเพดานแล้วมานั่งทับอก หายใจไม่ออก ร้องก็ไม่ได้
ครู่หนึ่ง ข้าพเจ้าก็สามารถร้องเรียกชื่อบ่าวได้ พอบ่าวตื่นขึ้น ภาพประหลาดนั้นก็หายไป ข้าพเจ้าพบว่าแขนถูกทับจนเป็นเหน็บ จึงเข้าใจว่าอาการคล้าย “ผีอำ” นี้น่าจะเกิดจากเลือดไหลเวียนไม่สะดวก
แม้เข้าใจเหตุผลทางกายภาพ แต่จิตใจก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ ต้องใช้เวลานานกว่าจะสงบลงได้
ผีหลอกที่บ้านบางยี่ขัน
ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ที่ บ้านบางยี่ขัน เวลาประมาณสองยามเศษ (ราวสี่ทุ่มถึงเที่ยงคืน) ข้าพเจ้าเข้านอนในห้อง ขณะนั้นได้ยินเสียง “แกรก ๆ” คล้ายเสียงฝาผนังสั่น หรือเสียงเหมือนมีใครขยับตัวอยู่ใกล้ ๆ
ตอนแรก ข้าพเจ้ายังไม่กลัว เพราะคิดว่าอาจเป็นขโมย แต่เมื่อฟังเสียงนานเข้า ก็รู้สึกแปลก เพราะเสียงยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุด
เกือบจะเรียกคนอื่นแล้ว แต่คิดว่าหากไม่ใช่ขโมย จะกลายเป็นเรื่องน่าอับอาย จึงลังเล ระหว่างความกลัวกับความละอาย
ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจลุกขึ้น เปิดผ้ามุ้ง ผลักเตียง จุดเทียน ไล่เสียงไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่พบอะไรเลย
เสียงนั้นยังคงอยู่ แถมยังได้ยินเสียงรองเท้าเดินลากเท้าบนพื้นกระดานอย่างแผ่วเบา เหมือนผู้หญิงเดินอยู่ในห้อง
ข้าพเจ้ารู้สึกขนลุก ไม่กล้าเดินต่อ รีบกลับไปซุกตัวในผ้าห่ม แม้จะหวาดกลัวแต่ก็เหนื่อยจนหลับไปในที่สุด
เรื่องเล่าทั้งสองนี้มิใช่เพียงเรื่องผี หากแต่เป็นบันทึกประสบการณ์ภายในใจของเจ้านายไทยพระองค์หนึ่ง ในยุคสมัยที่ “เหตุผล” เริ่มแข่งขันกับ “ความเชื่อ” อย่างจริงจัง
พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์ไม่ได้ทรงยืนยันว่าผีมีอยู่จริง ทรงเพียงแต่เล่าตามที่ประสบและทรงรู้สึก ด้วยความซื่อตรงอย่างนักสังเกต
นั่นเองที่ทำให้เรื่องเล่าผีหลอกของพระองค์ ยังคงร่วมสมัย และสะเทือนใจผู้อ่านได้แม้เวลาจะผ่านไปกว่าร้อยปี
บรรณานุกรม
ศรีเสาวภางค์, พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้า. (2464). _หนังสือว่าด้วยอำนาจผี แลผีหลอก_. ม.ป.พ.